Porsche: คู่แข่งรายใหม่ใน Space Race ของ Bezos และ Musk

Porsche: คู่แข่งรายใหม่ใน Space Race ของ Bezos และ Musk

ทศวรรษที่ผ่านมาเราเห็นว่า สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต มีการแข่งขันในอวกาศของตนเอง พยายามไปดวงจันทร์ ปฏิบัติภารกิจในอวกาศหรือนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพื่อรับข้อมูลที่ส่งไปยังโลกของเราในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเป็นบริษัทเอกชนที่ได้รับบทบาทนำในภารกิจอวกาศ บริษัทที่ชอบ ต้นกำเนิดสีน้ำเงิน , โดย เจฟฟ์ เบซอส หรือ ปา โดย Elon Musk ได้ทำภารกิจอวกาศมากมาย พวกเขากำลังพิจารณาทำภารกิจที่ประกอบด้วยการท่องเที่ยวในอวกาศในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามหาเศรษฐีทั้งสองนี้ได้รวมกลุ่มใหม่: ยี่ห้อรถปอร์เช่.

ปอร์เช่ ต้องการเปิดตัว จรวด โครงการร่วมกับ ไอซาร์ แอโรสเปซ ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าลงทุน มีวัตถุประสงค์เพื่อพยายามเข้าถึงเทคโนโลยีอวกาศ แต่ถ้าไม่รับและพลาดก็นำสิ่งนี้มาให้บ้าง เทคโนโลยีอวกาศ ไป อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก

พอร์ชเป็นคู่แข่งที่แท้จริงหรือไม่?

เป้าหมายของเขาคือ เพื่อให้ทัน กับบริษัท Bezos และ Musk ปอร์เช่ได้ลงทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อเริ่มต้นสิ่งนี้ อันที่จริงโครงการจรวดที่เรียกว่า สเปกตรัม ที่รับน้ำหนักได้หนึ่งตัน อยู่ระหว่างดำเนินการและจะเปิดตัวในปี 2022 . เป้าหมายคือเพื่อใช้ในการนำดาวเทียมอย่างที่เห็นจาก SpaceX Earth ขึ้นสู่วงโคจร

ในตอนนี้มัน เป็นไปไม่ได้ที่จะแข่งขันกับ SpaceX หรือ Blue Origin แต่บริษัทมีความทะเยอทะยานมากมาย แม้ว่าคุณจะไม่มีงบประมาณมากนักหรือยังไม่ได้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศก็ตาม แต่ยังพอมีเวลา ก้าวหน้า. มันเป็นหนึ่งในแผนการของพวกเขาที่จะ ใช้จรวดที่ใช้ซ้ำได้

Porsche มีความทะเยอทะยานสูงมาก

หนึ่งในผู้บริหารของ ปอร์เช่ ได้รับรองว่าการเข้าถึงพื้นที่จะมีความสำคัญมากต่อ ให้นวัตกรรม กับอุตสาหกรรมทั่วไปอื่นๆ ไม่เป็นความลับที่รถยนต์จะพัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ดังนั้นการมีภาคส่วนที่ให้บริการระบบไฮเทคสู่อวกาศจะเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ

ถึงแม้ว่า ปอร์เช่ มีความสามารถในการพัฒนา ระบบดาวเทียมของตัวเอง มันสามารถนำไปใช้ในรถยนต์และขายให้กับแบรนด์อื่น ๆ ที่สนใจได้

สรุปได้ว่า ยังมีเวลา เพื่อดูว่าการผสมผสานระหว่าง Porsche กับ Isar Aerospace จะสามารถยืนหยัดต่อบริษัทอวกาศของ Elon Musk และ Jeff Bezos ได้ในอนาคตหรือไม่ มันจะอยู่ในความพยายามเท่านั้น เราจะต้องรอจนถึงปีหน้าเพื่อดูว่าปอร์เช่มีความสามารถอะไรกับจรวดและดาวเทียมเหล่านี้